เอาตารางฟูลมูนปาร์ตี้ 2016, 2017 และ 2018 มาฝากครับ เกาะพะงัน/เกาะสมุย

Full-Moon-Party-Koh-Phangan-Thailand-Samui-Buckets-Bars

เกาะสมุยและเกาะพะงัน บอกเลยว่านี่คือเกาะสวาทหาดสวรรค์ของคนรักปาร์ตี้ขนานแท้ ร่ำลือไปไกลทั่วโลกจริงๆครับ สำหรับฟูลมูนปาร์ตี้ที่จัดทุกเดือนในคืนพระจันทร์เต็มดวงในบ้านเรา คนรักปาร์ตี้จากทั่วโลกต้องรู้จัก และเดินทางมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ใครอยากไปแจมก็เช็คตารางฟูลมูนได้ตามนี้เลยครับ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วลุยกันเลย

201620172018
23 มกราคม12 มกราคม1 มกราคม
23 กุมภาพันธ์12 กุมภาพันธ์31 มกราคม
22 มีนาคม12 มีนาคม2 มีนาคม/31 มีนาคม
21 เมษายน11 เมษายน29 เมษายน
21 พฤษภาคม11 พฤษภาคม30 พฤษภาคม
19 มิถุนายน9 มิถุนายน27 มิถุนายน
21 กรกฎาคม10 กรกฎาคม29 กรกฎาคม
18 สิงหาคม7 สิงหาคม26 สิงหาคม
16 กันยายน5 กันยายน24 กันยายน
17 ตุลาคม6 ตุลาคม25 ตุลาคม
14 พฤศจิกายน3 พฤศจิกายน22 พฤศจิกายน
14 ธันวาคม3 ธันวาคม22 ธันวาคม
Full-Moon-Party-Koh-Phangan-Thailand-Samui
Full Moon Party Koh Phangan Thailand Samui

น้ำใจตุ๊กตุ๊กไทย เมื่อผมทำมือถือหล่นบนรถแล้วคิดว่าไม่น่าจะได้คืน

เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ คู่หูผม ลูเมีย 1020 สุดหวง เกือบหายไปกับตุ๊กตุ๊กแล้วเชียว ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงมือถือที่ผมใช้ถ่ายรูปสำหรับแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวบนเว็บนี้นี่แหละ ก้าวออกจากตุ๊กตุ๊กแล้วดันทำหล่นบนรถเค้าซะงั้น เกือบได้หาเครื่องใหม่มาทดแทนซะแล้วมั้ยล่ะ

เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากตะลอนเที่ยวข้าวสารกับเพื่อนๆในคืนวันศุกร์แล้วกลับมานั่งชิลกันต่อที่ดาดฟ้าโรงแรมแถวๆเจริญกรุง 22 ที่ไอ้คุณจาค็อบ เพื่อนใหม่ที่เพิ่งเจอกันในถนนข้าวสารจองไว้ ฝอยกันไปเรื่อยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันพอหอมปากหอมคอจนถึงเช้า แล้วทีนี้ก็ถึงเวลาแยกย้ายกลับบ้านบ้านใครบ้านมัน(จริงๆมันไม่มีบ้านในกรุงเทพหรอก มันแค่แวะพักก่อนจะไปตรังต่อ ส่วนผมก็มีทริปกับเพื่อนอีกกลุ่มนึงต่อเหมือนกัน) ผมก็เดินลงมาหน้าโรงแรม ตรงนั้นมันจะมีตุ๊กตุ๊กกับวินมอไซค์จอดอยู่ คนขับเค้าก็ถามว่าจะไปไหน ผมก็สตั้นไป 3 วินาที(สลับภาษาไม่ทัน สมองประมวลผลอยู่) แล้วบอกไปว่ารถไฟใต้ดินหัวลำโพงครับ ฮีก็ถามต่อว่าจะไปยังไง นาทีนั้นไอ้กระผมก็กำลังเบลอๆ หลุดปากบอกไปว่าเอาซักทางสิ่ อ่ะไรก็ได้ แต่พอตั้งสติได้ ดูแล้วท่าจะยาว ผมก็เลยตัดบทไปว่าเอาตุ๊กตุ๊กก็แล้วกันครับ ไปโลด ก็เลยได้กลับบ้านกลับช่องกับเค้าซะที

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นครับ พอถึงหัวลำโพงปุ๊บ เดินลงบันไดเลื่อนเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน ระหว่างนั้นผมเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไปด้วย กระเป๋าตังอยู่ข้างขวา โอเค มีตังกลับบ้านแล้ว แต่ข้างซ้ายทำไมมันโล่งๆวะครับ อ้าวเฮ้ย คุณพระ มือถือหาย!!! ยังไม่สุดบันไดเลื่อนเลยครับ ผมนี่วิ่งลงแล้วกลับขึ้นมาอีกด้านเลย พอวิ่งขึ้นมาดู มองหาตุ๊กตุ๊กที่มาส่งผม เค้าไปแล้วแล้วแล้ว He was gone, you know? ชิบหายแล้วไง สตั้นอยู่ตรงนั้นหลายวิจนพี่วินมอไซค์ตรงนั้นถามว่าเป็นอะไร พอได้สติผมก็บอกเค้าไปว่ามือถือผมหล่นบนตุ๊กตุ๊กที่ผมนั่งมา ฮีตอบว่าอ๋อ เค้าขับออกไปแล้ว(คิดในใจว่า กรูรู้แล้วครับ ถึงได้ตั้งสติอยู่นี่ไง) ถามเค้าไปว่าผมควรทำไงดี เค้าบอกว่าน่าจะยากนะน้อง ก็เค้าไปแล้ว นั่งมาจากที่ไหนล่ะ ผมบอกไปว่าเจริญกรุง 22 ตรงโรงแรมอะไรซักอย่าง เค้าบอกว่าถ้าเป็นตรงนั้นคงมีโอกาสได้คืน เพราะว่าเค้าอยู่ประจำกันตรงนั้นเลย ไม่ได้วิ่งวนไปเรื่อยๆเหมือนตุ๊กตุ๊กคันอื่น ลองกลับไปถามดูที่นั่นก็น่าจะได้ ได้ยินแบบนั้นผมก็ใจชื้นขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยก็มีโอกาสได้โทรศัพท์สุดที่รักผมคืน แล้วผมก็บอกพี่วินมอไซค์ว่า พาผมไปตรงนั้นหน่อยครับ เดี๋ยวนี้เลย พี่ท่านก็บึ่งไปส่งถึงที่เลย(หมดไป 40 บาท)

Tuk Tuk Thailand
Tuk Tuk Thailand

พอกลับไปที่หน้าโรงแรมก็มีลุงขับตุ๊กตุ๊กคนอื่นเค้าทักผมว่า “อ้าวน้อง เพิ่งไปเมื่อกี๊ไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับมาล่ะ” ผมก็เลยบอกเค้าไปว่าผมทำมือถือตกบนรถตุ๊กตุ๊กที่ผมนั่งไป ก็เลยย้อนกลับมาดูเผื่อเค้าจะกลับมาที่นี่ แล้วลุงคนขับตุ๊กตุ๊กเค้าก็บอกว่า ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าอยู่บนรถ ยังไงก็ได้คืน กลัวแต่คนขับไม่รู้ว่ามีโทรศัพท์ตกอยู่แล้วผู้โดยสารคนอื่นจะหยิบไปมากกว่า เดี๋ยวลุงช่วยโทรบอกเค้าให้(ในใจผมนี่ โอ้โห ลุงเค้ามีน้ำใจมากจริงๆ ขนาดไม่ใช่ธุระอะไรของเค้า แถมเค้ายังต้องไปส่งลูกค้าคนอื่นด้วยเค้าก็ยังอุส่าช่วยเรา ปลื้มมากจริงๆ ณ จุดนี้)

หลังจากรออย่างกังวลใจประมาณ 20 นาที กลัวว่าจะมีคนหยิบไปจากรถ คุณลุงคนที่ไปส่งผมตอนแรกก็ขับรถเข้ามาจอดแล้วเอาโทรศัพท์มาคืนให้ผม แล้วถามผมว่าทำไมไม่โทรเข้าเครื่องล่ะ ผมก็บอกเค้าไปว่าผมลืม แล้วก็มือถือผมไม่ได้เปิดเสียงด้วย โทรไปคงไม่ได้ยิน แล้วผมก็ขอบคุณลุงเค้าอยากมากเลย แล้วก็บอกขอบคุณคนรอบๆที่ช่วยให้ผมได้โทรศัพท์คืน หลังจากนั้นก็นั่งรถตุ๊กตุ๊กกลับไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงอีกทีนึง จบเรื่องวุ่นๆในเช้าวันพักผ่อนของผมซะที

จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าผมมองโลกในแง่ร้ายเกินไป บางทีคนรอบๆตัวก็สามารถไว้ใจได้ กรุงเทพเราปลอดภัยกว่าที่คิด ผู้คนต่างๆก็มีน้ำใจเหมือนอยู่เหมือนกัน จากที่ผมไม่ค่อยไว้ใจใครเท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าจะได้โทรศัพท์คืนแน่ๆ คงต้องหาเครื่องใหม่ไว้ใช้ซะแล้ว ผมเปิดใจมากขึ้น จากเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมากับตัว ขอบคุณสำหรับความประทับใจดีๆในกรุงเทพ

ปล. ภาษาเขียนผมอาจไม่ดีเท่าไหร่ เพราะผมไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ ผมแค่อยากเล่า อยากแชร์ประสบการณ์ที่ผมได้พบเจอมา ขอบคุณสำหรับคนที่หลงเข้ามาอ่านนะครับ

ชวนเที่ยวพระธาตุยาคู จังหวัดกาฬสินธุ์

ในเขตพื้นที่ของจังหวัดทางภาคอีสานนั้น เรียกได้ว่า ความศรัทธาในพระพุทธศาสนายังคงโดดเด่นเสมอๆ และความศรัทธาเชื่อถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีอยู่มาก ทำให้เกิดการก่อสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆอันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ ในบางแห่งก็สร้างศาสนสถานเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ระลึกถึงพระอรหันต์หรือพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เรียกได้ว่าเป็นสังฆานุสติ  อย่างเช่น ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีพระธาตุเจดีย์ที่คงความศักดิ์สิทธิ์มาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ พระธาตุยาคู ซึ่งเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมศรัทธาของประชาชนจำนวนมาก

พระธาตุยาคูแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านเสมา  อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์  โดยมีประวัติความเป็นมาของการสร้างที่ระบุไว้ว่า พระธาตุยาคูถูกสร้างขึ้นในสมัยทวาราวดี ซึ่งเก่าแก่และยาวนาน ทำให้ในเวลาต่อมาได้เกิดการผุพังไป และในสมัยนั้นก็ไม่ได้มีใครเข้ามาบูรณะปฏิสังขรณ์

จวบจนในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้มีการซ่อมแซมและสร้างเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมขึ้นมา โดยก่ออิฐถือปูนและครอบฐานเดิมของพระเจดีย์ไว้ จากนั้นเรื่อยมากระทั่งถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สันนิษฐานว่า ได้มีการสร้างและต่อเติมในส่วนยอดของพระธาตุเจดีย์ให้สูงขึ้นอีก

ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๒๒ ทางกรมศิลปากรได้ทำการบูรณะซ่อมแซมพระธาตุยาคูขึ้นใหม่ และได้จดทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน

มีความเชื่อกันในหมู่ชาวบ้านว่า ภายในองค์พระธาตุยาคู ได้มีการบรรจุอัฐิของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไว้ให้ประชาชนได้กราบสักการะ ซึ่งพระเถระชั้นผู้ใหญ่จะเป็นพระรูปใดนั้นไม่ได้มีการระบุไว้ ระบุแต่เพียงว่า เป็นพระสงฆ์ที่ชาวเมืองให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

ทางการจึงได้จัดให้มีเทศกาลสำหรับบูชาสักการะองค์พระธาตุประจำปี ซึ่งถูกจัดขึ้นในเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการขอฝนให้พืชพันทางการเกษตรมีความเจริญงอกงาม และยังให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชาวเมืองกาฬสินธุ์อีกด้วย

พุทธศิลป์ของพระธาตุยาคูนั้น วัดจากฐานถึงยอดสูง 8  เมตรได้ถูกสร้างในลักษณะของการก่ออิฐถือปูน เป็นทรงเจดีย์ 8 เหลี่ยม มีขนาดฐานกว้าง 10เมตร ยาว 10  เมตร  และได้ถูกสร้างให้มีลักษณะซ้อนกันเป็นจตุรมุข ส่วนทางขึ้นพระธาตุยาคู จะมีบันไดทางขึ้น 4 ทิศ

สำหรับผู้ที่ประสงค์เดินทางไปกราบสักการะพระธาตุยาคูเพื่อความเป็นสิริมงคลและเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมมที่สวยงามแปลกตา หากเดินทางจากจากตัวเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ไปตามเส้นทางหลวงสาย 214 (กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด) โดยมีระยะทางในการเดินทางประมาณ 19 กิโลเมตร หรือหากเดินทางจากตัวอำเภอกมลาไสย ให้ไปตามถนนหน้าโรงเรียนกมลาไสย รวมระยะทางสำหรับการเดินทางในเส้นทางนี้ ประมาณ 6  กิโลเมตร แล้วจึงถึงแยกบ้านเสมา จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าถนนลูกรัง ไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงเจดีย์พระธาตุยาคู

อยากเที่ยวเชียงราย จะไปยังไงดี มาดูกัน

จังหวัดนี้อยู่เหนือสุดของไทยเราแล้วครับ และจังหวัดทางเหนือส่วนใหญ่ของเราก็เหมาะที่จะไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นๆแบบนี้พอดี ชอบลุยป่า ชอบภูเขาไม่ควรพลาดนะผมว่า เห็นหลายๆคนไปเก็บภาพสวยๆกันเพียบเลย ผมก็เลยอยากไปกับเค้าบ้าง ประจวบเหมาะกับช่วงสัปดาห์ก่อนผมบังเอิญไปเจองานเทศกาลบอลลูนที่เค้าแชร์กันมาในกลุ่มเฟซบุ๊ค แล้วมันดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก และเนื่องจากส่วนตัวเห็นภาพโปรโมทงานท่องเที่ยวของพม่าเค้า ที่มีบอลลูนลอยเต็มท้องฟ้าแล้ววิวด้านล่างเป็นเจดีย์จำนวนมาก ก็เลยอดตื่นเต้นไม่ได้ที่เห็นอะไรเกียวกับบอลลูนแบบนี้ในช่วงนี้ จริงๆผมเองก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าที่เชียงรายเค้าก็มีเทศกาลบอลลูนเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ที่เชียงใหม่ ซึ่งงานนี้จัดโดยไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค เชียงราย มาดูกันดีกว่าว่ามีทางไหนที่จะไปเที่ยวเชียงรายได้บ้าง

1.เดินทางด้วยรถไฟ

จังหวัดนี้รถไฟไปไม่ถึงนะครับ น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะผมเองก็ชอบนั่งรถไฟมากกว่าเดินทางด้วยวิธีอื่น(ชอบชมวิวข้างทาง แถมราคาถูกอีกต่างหาก) ซึ่งจากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีรถไฟไปลงที่จังหวัดลำปางหรือเชียงใหม่ แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์ ไปจังหวัดเชียงรายอีกทีนึง สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 หรือเว็บไซต์ของการรถไฟที่ www.railway.co.th โดยตรงได้เลยครับ

2.รถโดยสารประจำทาง

มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของ บ.ข.ส. และของเอกชน ไปเชียงรายทุกวัน แบ่งเป็นหลายเส้นทางได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงราย, กรุงเทพฯ – แม่สาย, กรุงเทพฯ – เชียงแสน, กรุงเทพฯ – เชียงของ โดยจะมีรถออกจากสถานีขนส่ง สายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานีขนส่งสายเหนือ กรุงเทพฯ โทร. 0 2936 2852-66
สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1369
บริษัท สยามเฟิร์สทัวร์ กรุงเทพฯ โทร. 0 2954 3601-7 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1882
บริษัท สมบัติทัวร์ โทร. 0 2936 2495 สำนักงานเชียงราย
บริษัท อินทราทัวร์ โทร. 0 2936 2492 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 1235
บริษัท คฤหาสน์ทัวร์ โทร. 0 2936 3531 สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7083

ตารางการเดินรถกรุงเทพ-เชียงราย

ตารางเวลาเดินรถปรับอากาศชั้น 1 (ก) VIP 24 ที่นั่ง ภาคเหนือ
เส้นทางค่าโดยสารระยะทางระยะเวลาเวลาต้นทางเวลาปลายทาง
กรุงเทพฯ-เชียงราย1,03576611.3019.15,19.30,20.0018.30,19.00
กรุงเทพฯ-แม่สาย1,10585712.0007.30,19.00,19.4007.00,17.30
ตารางเวลาเดินรถปรับอากาศชั้น 1 (ก) VIP 32 ที่นั่ง ภาคเหนือ
เส้นทางค่าโดยสารระยะทางระยะเวลาเวลาต้นทางเวลาปลายทาง
กรุงเทพฯ-เชียงแสน88271012.3018.0018.00
กรุงเทพฯ-เชียงของ84887513.0019.00
ตารางเวลาเดินรถปรับอากาศชั้น 1 (ก) VIP 40 ที่นั่ง ภาคเหนือ
เส้นทางค่าโดยสารระยะทางระยะเวลาเวลาต้นทางเวลาปลายทาง
กรุงเทพฯ-เชียงราย66880110.0007.50,19.30,21.0020.00
กรุงเทพฯ-แม่สาย71387510.3017.3017.30
กรุงเทพฯ-เทิง-เชียงของ72787513.0007.00,20.0008.30,20.00

3.เครื่องบิน

เป็นความโชคดีอย่างนึงที่จังหวัดนี้มีสนามบิน บินตรง ทั้งจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปเชียงราย และเที่ยวบินไป-กลับ ระหว่างเชียงราย-เชียงใหม่ ทุกวัน วันละ 2 เที่ยว อันนี้ผมปลื้มนะ เผื่อตะลอนเที่ยวเหนื่อยๆมาแล้วอยากกลับแบบสบายหน่อย ไม่เปลืองสังขารมาก เบอร์โทรสำหรับสอบถามรายละเอียดก็ 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000, 0 2356 1111 เบอร์ติดต่อสำหรับสำนักงานเชียงรายก็ 0 5371 1179, 0 5371 5207 และสำหรับสำนักงานเชียงใหม่ก็โทรไปที่ 0 5321 0043-5, 0 5321 1044 หรือที่เว็บไซต์ www.thaiairways.com

นอกจากนี้สายการบินหลักแล้วก็ยังมีสายการบิน วัน-ทู-โก บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เชียงราย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1126 หรือที่เว็บไซต์ www.fly12go.com
หรือจะเป็นสายการบิน SGA เส้นทางระหว่าง เชียงใหม่-เชียงราย สอบถามรายละเอียดที่ โทร. 0 2664 6099 หรือเว็บไซต์ www.sgaairlines.com
อีกสายการบินนึงคือสายการบินไทย แอร์ เอเชีย บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ -เชียงราย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 2515 9999 หรือที่เว็บไซต์ www.airasia.com
และอีกสายการบินสุดท้าย สายการบิน นกแอร์ บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เชียงราย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1318 หรือที่เว็บไซต์ www.nokair.com

ยังไงก็ก่อนออกเดินทางสู่เชียงรายก็โทรเช็คข้อมูลกับผู้ให้บริการแต่ละเจ้าให้ดีก่อนนะครับ ขอให้สนุกกับการแอ่วเหนือ แล้วอย่าลืมเก็บภาพสวยๆมาฝากกันด้วยนะครับ สำหรับตัวผมเองก็คงหาตั๋วซักใบไปดูเทศกาลบอลลูนกับเค้าซักหน่อยดีกว่า ใจมันเรียกร้องมากเลยตอนนี้ เจอกันที่เชียงรายครับผม

เที่ยวเชียงใหม่ เดินทางไปเชียงใหม่ยังไงได้บ้าง?

เชียงใหม่จังหวัดทางภาคเหนือเกือบสุด(สุดคือเชียงราย ถ้าผมจำไม่ผิด)  หนึ่งในจังหวัดที่ผมไปบ่อยที่สุด ไปมันทุกปี ล่าสุดก็งานลอยกระทงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าเชียงใหม่นั้นเป็นปลายทางยอดฮิตอันดับต้นๆของประเทศไทยเราที่ใครๆก็รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ ต่างก็มาเที่ยวบ้านเราแล้วไปเชียงใหม่กันทั้งนั้น เชียงใหม่นั้นมีชื่อเดิมคือ “นพบุรีศรีนครพิงค์” ก่อตั้งเป็นราชธานีแห่งอาณาจักรล้านนาเมื่อกว่า 700 ปีก่อน โดยพญาเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย

เชียงใหม่นับเป็นศูนย์กลางของจังหวัดในภาคเหนือ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางด้านธรรมชาติอันงดงาม ด้านศิลปวัฒนธรรม และประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์น่าประทับใจ และความพรั่งพร้อมในเรื่องสถานที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ที่หลากหลาย เป็นที่ดึงดูดคนมาท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปี โดยส่วนตัวผมก็ไปเชียงใหม่อย่างน้อยปีละครั้งเหมือนกัน ถึงไม่รู้ว่าจะไปทำอ่ะไรก็เถอะ แต่ผมก็ไป อินดี้มั้ยล่ะผม

เดินทางด้วยรถประจำทางจากสถานีขนส่งหมอชิต 2(Bus)

มีรถประจำทางปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th นครชัยแอร์ โทร. 0-2936-0009 www.nca.co.th ทันจิตต์ทัวร์ โทร. 0 2936 3210 นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ โทร. 0 2936 2207 สมบัติทัวร์ โทร. 0 936 2495-8 สหชาญทัวร์ โทร. 0 2936 2762 สยามเฟิสท์ทัวร์ โทร. 0 2954 3601-7 ฯลฯ
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นครชัยแอร์ www.nca.co.th นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com

เดินทางด้วยรถไฟ(Train)

เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรวมทั้งตัวผมเองด้วย ปกติผมจะชอบรถไฟเที่ยวเย็นๆ ใช้เวลาคืนนึงก็ถึงเชียงใหม่ จากนั้นก็พร้อมลุยต่อ โดยจะมีรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงหลายขบวน ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือที่เว็บไซต์ www.railway.co.th ได้เลยครับ

เดินทางด้วยเครื่องบิน(Airplane)

สายการบินจากกรุงเทพสู่เชียงใหม่นั้นมีเยอะจนไม่รู้จะเลือกอันไหนกันเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเลือกได้ตามกำลังทรัพย์เลยจริงๆ เพราะว่ามันมีเยอะมาก โดยหลักๆก็มีตามรายการด้านล่างนี้เลยครับ

  • การบินไทยบริการเที่ยวบินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน โทร. 0 2356 1111 หรือ www.thaiairways.com
  • สายการบินบางกอกแอร์เวย์สบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โทร .0 2270 6699 หรือ www.bangkokair.com
  • สายการบินวันทูโกมีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน โทร. 1126 หรือ www.fly12go.com
  • สายการบินนกแอร์บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน โทร. 1318 หรือ www.nokair.com
  • สายการบินไทยแอร์เอเชียบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน โทร. 0 2515 9999 หรือ www.airasia.com

ทิปส์สำหรับท่องเที่ยวให้ฟิน

  • ช่วงฤดูหนาวจัดเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงนั้นจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล ทำให้การจราจรในย่านตัวเมืองติดขัด แนะนำให้ใช้รถสองแถว หรือเช่ารถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ ขี่เที่ยวในย่านตัวเมืองเชียงใหม่จะสะดวกที่สุด
  • การขับรถเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ที่สภาพเส้นทางลาดชันไปตามไหล่เขา เวลาขับต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นและเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดนะครับ เดี๋ยวหลุดโค้งจะหาว่าไม่เตือนนะเออ ขนาดผมนั่งรถแดงกับคนขับผมยังเสียวเลย ไม่อยากจะคุย(เหรอ?)
  • ช่วงเวลาสำหรับการดูนกบนดอยอินทนนท์ คือ ช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีนกอพยพหนีหนาวมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
  • ในเชียงใหม่มีสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งสวยงามไม่แพ้กัน เช่น ดอยอินทนนน์ ดอยขุนแม่ยะ ดอยขุนช่างเคี่ยน ดอกนางพญาเสือโคร่งมักออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันทั้งต้นในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเดินทางไปท่องเที่ยว

เอาเป็นว่าใครสะดวกวิธีไหนก็เลือกจัดกันได้เลยครับ สำหรับผมตอนนี้คงเป็นรถไฟแหละ ได้ซึมซับบรรยากาศ พบปะผู้คน พูดคุยกับนักท่องเที่ยวด้วยกันระหว่างเส้นทาง เป็นอะไรที่สุดยอดแล้วหล่ะสำหรับผม อย่าลืมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของเพื่อนๆมั่งนะครับ ตรงกล่องคอมเมนต์ด้านล่างหรือแฟนเพจก็ได้ครับ รอติดตามทริปของเพื่อนๆอยู่ ขอให้สนุกกับการเที่ยวเชียงใหม่ครับ

ออ! สำหรับคนชอบความสะดวกสบายในการจองเที่ยวบินนะครับ ผมแนะนำให้จองผ่านแอ็พ Traveloka ดีกว่า เพราะตัวแอ็พมีฟังก์ชันเปรียบเทียบราคาสำหรับแต่ละเที่ยวบินให้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบราคาเอง อันนี้ผมปลื้มสุดๆละ

ทริปแรกสุดอึดของผม 4 วัน 3 คืน สองเกลอตะลุยกาญจนบุรี

งานเทศกาลฉลองสะพานข้ามแม่น้ำแคว ธันวาคม 2015

ทริปนี้ผมเองก็ไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับกาญจนบุรีมากเท่าไหร่ครับ แต่ใจมันบอกว่าอยากไป ฮ่าๆ ไม่ค่อยดีนะครับ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จะไปเที่ยวที่ไหนเราก็ควรวางแผนกันดีๆก่อน จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน(ว่าไปนั่น) ผมไปกันตอนต้นเดือนธันวาคม 2015 ครับ จากที่ได้ยินมากาญจนบุรีนั้นมีสถานที่เที่ยวค่อนข้างเยอะ เกี่ยวกับพวกน้ำตก อุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ทางรถไฟสายมรณะ สุสานทหาร และสถานที่ระรึกเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมรู้ข้อมูลคล่าวๆแค่นี้จริงๆ แต่วิธีการเดินทางผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย คิดว่าไปด้วยรถไฟน่าจะสะดวกสุด ค้นหาข้อมูลแล้วผมต้องไปขึ้นรถไฟที่ฝั่งธน(สถานีกรุงเทพ) เพื่อไปกาญจนบุรี

แม่น้ำแคว กาญจนบุรี
แม่น้ำแคว กาญจนบุรี

แต่!!! พอผมมาดูแผนที่จากกรุงเทพไปกาญจนบุรีแล้วมันแค่ 100 กว่าโลเอง ผมคิดว่าผมขับรถจักรยานยนต์ไปเองน่าจะสะดวกกว่ามั้ย? ไปถึงจะได้ไม่ต้องหารถให้วุ่นวาย ผมขี้เกียจต่อรถด้วย(ผมเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับความวุ่นวายในการหารถที่เชียงใหม่ ต้องต่อรถจี๊บแดง ไปท่าแพแล้วเดินหาร้านเช่ารถ ซึ่งผมคิดว่ามันเสียเวลามาก แถมหงุดหงิดอีกต่างหาก บวกกับตอนที่ผมเรียนนั้นบ้านผมกับมหาลัยที่เรียนนั้นห่างกันประมาณนี้เหมือนกัน เวลากลับบ้านทีผมก็ขับมอไซค์กลับชิลๆ) ผมกับเพื่อนก็เลยตกลงกันว่าเราขับรถมอไซค์ไปกันเองก็ได้ ใกล้แค่นี้เอง เหนื่อยก็แวะพักระหว่างทางได้ ไปกันเอง ซึ่งดันไปถูกใจคุณเพื่อนตัวดีเข้าเต็มๆ จะเรียกว่ามันก็เดี๋ยวมีคนหาว่าผมถ่อย เรียกฮีแทนละกันเนาะ บ้านฮีอยู่ไอร์แลนด์ มาตะลอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้กรุงเทพเป็นฐานที่มั่น ปักหลักอยู่กรุงเทพแล้วบินตรงไปเมืองหลวงของแต่ละประเทศ จากนั้นค่อยแบ็คแพ็คอีกทีนึง ฮีเพิ่งกลับจากพม่าพอดี เผอิญว่างอยู่เกือบอาทิตย์ ก่อนจะไปแบ็คแพ็คลาวกับเวียดนามต่อ แล้วฮีบ่นอยากหนีจากกรุงเทพตามแบบฉบับนักท่องเที่ยวของฮีนั่นแหละ ทริปสุดผจญภัยของเราก็เลยบังเกิด เรียกได้ว่าทั้งเสี่ยงตายทั้งสนุกเลยหล่ะ

ทริปนี้ผมเดินทางกันยังไง

ทริปนี้ผมเริ่มออกจากบ้านที่ลาดพร้าวมุ่งไปเพชรเกษมเพื่อออกไปนครปฐมให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะผมดูข้อมูลเส้นทางจากอากู๋แล้วมันดูไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ เป็นถนนเส้นเดียวยาวๆเกือบถึงตัวเมืองกาญจนบุรีเลย ภารกิจหลักของเราก็เลยกลายเป็นหาวิธีไปนครปฐมให้ได้ก่อนเลย เพื่อความชัวร์ว่าเราจะไปถูกทาง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ สกิลในการเดินทางของผมนั้นห่วยขั้นเทพ เซนส์ในการเลือกเส้นทางของผมนี่เป็นอ่ะไรที่แย่มาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมา(ก่อนหน้านั้นผมเคยเช่ารถขับที่กระบี่และเชียงใหม่มาแล้ว บอกได้เลยว่าหลงทางเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว เอาไว้เดี๋ยวผมจะมาแชร์ประสบการในโอกาสหน้าก็แล้วกัน) กว่าจะหาทางไปเพชรเกษมได้ผมก็หลงอยู่ในกรุงเทพตั้งหลายรอบ ไปเลือกเลี้ยวผิดตรงวงเวียนใหญ่อยู่รอบนึง รอบสองถึงไปถูก จากนั้นวิ่งตรงอย่างเดียวตามเส้นเพชรเกษมทีเค้ากำลังทำรถไฟฟ้าอยู่พอดี วิ่งยาวๆกันเลยทีนี้ ไม่หลงแล้ว บางแค สายหนึ่ง สายสอง สายสาม บลา บลา บลา

พระปฐมเจดีย์ นครปฐม
พระปฐมเจดีย์ นครปฐม

ราวๆชั่วโมงกว่าๆก็ถึงนครปฐมครับ ระหว่างทางก็เห็นป้ายสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมด ใจก็อยากจะแวะ แต่ก็ต้องมั่นใจว่าจะถึงปลายทางก่อนมืดค่ำ เพราะว่าไม่ได้จองห้องพักอ่ะไรเลย กะไปหาเอาข้างหน้าอย่างเดียว โดยหลักๆผมจะใช้ agoda.com ในการค้นหาโรงแรม แล้วเข้าไปถามเลยว่ามีห้องว่างมั้ย(ซึ่งส่วนมากแล้วมักจะมีห้องว่าง และราคาก็เท่ากับที่เขียนไว้ในเว็บตอนลดราคาสุดๆนั่นแหละ อันนี้ก็เป็นทริคอย่างนึงในการหาห้องพักของพวกเรา ระหว่างทริปนี้) ถึงนครปฐมพวกเราไปเจองานเทศกาลฉลององค์พระปฐมเจดีย์พอดี ก็เลยพักเบรคกันที่นั่น แล้วเดินเที่ยวรอบๆ ถ่ายรูป หาของน้ำหาของกินกันราวๆชั่วโมงนึง เจดีย์ที่นี่ใหญ่จริงๆครับ อลังการงานสร้างมาก ตื่นตาตืนใจพวกเราจริงๆ พอกันเลยทั้งคนไทยทั้งฝรั่ง ฮ่าๆๆ

หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วก็ได้เวลาหาที่หลับที่นอนกันซะที ตอนแรกคุยกันว่าจะหาที่พักในเมืองนครปฐมซักคืนแล้วค่อยไปต่อ เพราะมันค่อนข้างเย็นมากแล้วเวลาตอนนั้นก็ราวๆหกโมง แต่พอตะลอนหาห้องพักแล้วมันดันไม่ถูกใจซะที บางที่ก็ราคาสูงเกินจริงไปหน่อย ก็เลยตกลงกันว่าไปเมืองกาญกันเลยดีกว่า เจอระหว่างทางค่อยพัก ซึ่งก็ถือว่าโอเคระดับนึง ได้โรงแรมในราคา 450 บาท ซึ่งถือว่ารับได้ทั้งสองฝ่าย ขับรถกันจนถึงเมืองกาญจริงๆ กว่าจะได้ห้องพัก ห้องพักหาไม่ยากครับ ขับรถตะลอนหาได้เลย แต่ระวังหน่อยตรงที่คนเมืองกาญขับรถน่ากลัวมาก ขับรถเร็ว ผมเองก็เกือบตายที่นี่แหละ หาจังหวะเลี้ยวแล้วรถฝ่าไฟแดงมา ผมตกใจจนแทบไปต่อไม่ได้ก็ทริปนี้หล่ะ แต่ก็ยังรอดมาได้ ปาฏิหาริย์จริงๆ ขอบคุณคุณยมทูติที่ยังไม่อยากเจอหน้าผม ฮ่าๆๆ

ทริปนี้ผมไปที่ไหนกันบ้าง

ประเดิมด้วยงานเฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก่อนเลยครับ วันที่ไปเป็นคืนสุดที่ที่มีการแสดงพอดีเลย เกือบพลาดแล้วเชียว หลังจากที่ขับมอไซค์ยาวๆจากกรุงเทพจนถึงเมืองกาญและได้ห้องพักในโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง พอเก็บของเสร็จ อาบน้ำให้สบายตัว แล้วกะออกมาหาของกินกัน แล้วขับรถกันไปเรื่อยๆ แต่ไม่ยอมเลือกซักร้าน จนไปถึงจุดที่เค้ามีแสงไฟสว่างๆ และเสียงดังเหมือนพลุ(มารู้ทีหลังว่าเค้าโยนระเบิดลงน้ำ) ก็เลยขับตามไปดูว่าเค้ามีงานอะไร เผื่อจะหาของกินในงานได้บ้าง แล้วก็ดันแจ็คพ็อตเจองานนี้เข้าพอดี งานฉลองสะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่รู้ชื่อทางการมันคืออะไรนะ แต่ผมเรียกแบบนี้เฉยๆ

River-Kwai-Bridge-night-time
งานเทศกาลฉลองสะพานข้ามแม่น้ำแคว ธันวาคม 2015

สะพานข้ามแม่น้ำแคว(River kwai bridge)

สะพานข้ามแม่น้ำแควจากมุมอื่น
สะพานข้ามแม่น้ำแควจากมุมอื่น

อย่างที่บอก คืนแรกที่มาถึงกาญจนบุรีก็เจองานเทศกาลตรงสะพานแม่น้ำแควพอดี ก็เลยมีโอกาสได้เที่ยวกันตอนกลางคืนบริเวณจัดงานรอบๆสะพานข้ามแม่น้ำแควกัน เดินกันทั่วถึงเลยทีเดียว บรรยากาศดีมากครับ เหมือนได้เที่ยวงานวัดแบบใหญ่ๆ จนถึงใหญ่มาก งานนี้สองเกลอตะลุยงานประจำปีกันแบบเต็มอิ่มเลยครับ มีตั้งแต่งานแสดงแสงสีเสียง งานแสดงรถไฟสมัยเก่าๆ ร้านขายของเหมือนงานวัด ตลอดจนเครื่องเล่นสมัยใหม่ มีเรือไวกิ้งด้วยนะเออ ได้เสียวกันตลอดงานเลยทีเดียว งานแบบนี้จะมีเฉพาะช่วงงานประจำปีนี้ครับ ใครที่อยากไปเที่ยวชมงานก็ควรเช็ควันให้ดีก่อนไปเที่ยวนะครับ กันพลาดไว้เป็นดีที่สุด อย่าเอาอย่างพวกผมที่ไปกันแบบไม่ได้เช็คอ่ะไรเลย เดี๋ยวอดดูโชวสวยๆไม่รู้ด้วยนะเออ นอกจากการแสดงในช่วงกลางคืนที่สวยอลังการแล้ว สะพานข้ามแม่น้ำแควในตอนกลางวันก็สวยน่าชมเหมือนกันนะครับ สวยแบบมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง ซึ่งแน่นอนครับว่าผมก็ไม่พลาดที่จะแวะมาเก็บภาพในตอนกลางวันอีกรอบก่อนจะตะลอนหาที่พักสำหรับคืนถัดไป ก่อนที่จะวางแผนเที่ยวน้ำตกเอราวัณกันต่อ

น้ำตกเอราวัณ(Erawan national park)

น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี
น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

น้ำตกนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโลเมตรครับ เท่าที่พวกผมรู้ พวกเราเลือกพักกันในเมืองเพราะขี้เกียจหาห้องพักใหม่ ขี้เกียจเก็บของ ก็เลยจองห้องไว้ 2 คืน แล้วอีกอย่างหนึ่งคือพวกเรากลัวว่าพอไปที่น้ำตกแล้วจะหาห้องพักลำบาก ก็เลยไม่เช็คเอาท์ออก เก็บของไว้ห้องเดิมนั่นแหละ แต่ก็เหมือนว่าพวกเราจะคิดผิด เพราะระหว่างทางที่ไปน้ำตกนั้นมีห้องพัก มีรีสอร์ทให้เลือกระหว่างทางเยอะเลยทีเดียว ไปกันคราวหน้าคงไม่ต้องกลัวแล้วหล่ะว่าจะหาห้องพักไม่ได้ ห้องพักมีเยอะซะจนเควิ่นแซวว่ามันมีเยอะกว่าในตัวเมืองอีก คราวหลังตรงมาน้ำตกเลยก็ได้ มีที่นอนแน่นอน ไม่ต้องกลัว

เส้นทางนี้นอกจากจะเป็นน้ำตกเอราวัณแล้วก็ยังมีเขื่อนศรีนครินทร์ที่อยู่ถัดกันขึ้นไปนิดหน่อยให้เราได้แวะชมวิวด้วยนะครับ พวกเราเลือกแวะเขื่อนก่อนแล้วค่อยลงมาเที่ยวน้ำตกกัน อยู่ไม่ไกลกันมาก ส่วนเรื่องรายละเอียดผมจะขอเล่าแยกเป็นทริปตะลุยน้ำตกเอราวัณอีกทีละกันนะครับ

วัดถ้ำเสือ(Tiger cave temple)

Buddha
Chedi

 

วัดนี้เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากครับ สำหรับพวกเรา ทั้งตัวผมเองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีวัดชื่อนี้ที่เมืองกาญด้วย ผมนึกว่ามันคือวัดเดียวกันกับที่กระบี่(ซึ่งผมเข้าใจผิด) ก็เลยไม่ได้วางแผนเที่ยวไว้ตั้งแต่แรก ถ้าคู่หูผมไม่บอกว่าจะไปดูวัดถ้ำเสือ ผมก็คงพลาดวัดนี้เหมือนกัน สำหรับวัดนี้ผมเล่าแยกไว้อีกบทความนึงนะครับ เพราะกลัวว่าบทความมันจะยาวเกินไป ยังไงก็ฝากติดตามอ่านกันได้ที่บทความ “ชวนเที่ยววัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี วัดสวยๆที่รวม 2 สไตล์เข้าด้วยกัน” นะครับ

ความประทับใจสำหรับทริปกาญจนบุรี

แม่น้ำแคว กาญจนบุรี
แม่น้ำแคว กาญจนบุรี

ทริปนี้สถานที่อาจจะน้อยนะครับ แต่เน้นความสนุกระหว่างทริปที่เราไม่ต้องเร่งรีบมากกว่า และเสียเวลาไปกับการเดินทางไปซะเยอะเลย เกือบครึ่งวันสำหรับการเดินทางไปแต่ละที่ บวกกับการศึกษาข้อมูลมาน้อยมากถึงมากที่สุด ทำให้เสียเวลาหาข้อมูลซะเยอะเลย เอาตรงๆก็คือไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลยมากกว่า ส่วนใหญ่จะถามคนท้องถิ่นมากกว่าว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง มาเที่ยวเมืองกาญเค้าไปที่ไหนกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ผมนี่แหละครับที่ต้องเป็นคนถาม เพราะถ้าปล่อยให้คู่หูอย่างเควิ่นเป็นคนถามคงไม่ต้องไปเที่ยวไหนกันพอดี เพราะฮียังใช้ภาษาไทยไม่ได้ ทริปนี้ผมก็เลยต้องพูดเยอะเป็นพิเศษ แต่ผมก็ดีใจที่มีเพื่อนเที่ยวนี่แหละครับ ไม่ต้องลุยคนเดียวเหมือนทริปก่อนๆ หลงทางก็หลงด้วยกัน(ถึงส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนพาเพื่อนหลงก็เหอะ ก็ผมเป็นคนขับ) หาที่พัก หาที่เที่ยวก็ช่วยกันหา อันนี้เป็นความประทับใจหลักๆของทริปนี้เลยครับ ถึงจะเหนื่อยกว่าทริปอื่นๆเพราะขับมอไซค์ระยะไกลไปหน่อยก็เถอะ

เที่ยวกระบี่ ลองไปดูซักครั้งแล้วคุณจะหลงรัก

พระอาทิตย์ตก ณ อ่าวนาง กระบี่

ทริปนี้บันทึกเรื่องราวการเที่ยวกระบี่ของตัวผมเองนะครับ พฤศจิกายน 2015 เป็นผลพลอยได้จากการไปแจมทริปของเพื่อนผมอีกทีนึง ไม่ได้วางแผนเองเลยด้วยซ้ำ เริ่มจากผมออกจากงานเพราะความเบื่อกับหลายๆเรื่องราว ความเหนื่อยล้าต่างๆ รวมถึงความอินดี้ส่วนตัวที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง(แต่ผมก็ทำไปแล้ว)
นิสัยเสียของผมอย่างนึงคือการเที่ยวแบบไม่มีแผน ทั้งที่ผมก็คิดว่าการวางแผนก่อนออกเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี แต่พอเอาเข้าจริงผมก็แค่แพ็คกระเป๋า จองตัวเครื่องบิน แล้วก็ Go!! หลายๆทริปของผมก็ไม่ค่อยต่างเท่าไหร่ T_T

อ่าวนาง กระบี่
อ่าวนาง กระบี่

ความดีความชอบของทริปนี้เลยยกเครดิตให้เพื่อนๆผมจากเยอรมันแทนครับ เค้าเตรียมตัวกันมาดีมาก มีแผนเป๊ะสุดๆ จองตั๋วไปกลับ กรุงเทพ – กระบี่ ไว้เรียบร้อย จองรีสอร์ทไว้เสร็จสรรพ แถมยังมีจองทัวร์ดำน้ำลึกไว้ด้วยนะเออ ผมนี่สบายเลยครัชงานนี้ แบกเป้อย่างเดียว ถึงเวลาก็เหมาแท็กซี่จากสีลมไปสุวรรณภูมิอย่างเดียวเลย จริงๆอยากไป Airport Link ด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ามันประหยัดดี แต่กระเป๋าแต่ละคนช่างใบใหญ่เสียเหลือเกิน แถมหลายใบอีกต่างหาก เลยต้องเหมาแท็กซี่ไป 500 บาทถ้วน ตรงดิ่งถึงสนามบินเลย ทริปนี้ได้รูปมาเยอะมาก แต่คงลงไม่หมด คงต้องอัพไว้ที่ Facebook แทนละกัน

ทริปนี้ผมไปเที่ยวไหนกันบ้าง?

หลังจากออกจากกรุงเทพตอนเย็นๆ อีกราวๆชั่วโมงนิดๆก็ถึงกระบี่แล้วครับ ไวจริงอะไรจริง อันนี้เป็นทริปแรกที่นั่งเครื่องนะครับ ตื่นเต้นจริงๆแฮะ เกิดมาก็เพิ่งเคยนั่งนี่หล่ะ เสียวท้องดี ชอบความเสียว ฮ่าๆๆ

ถึงกระบี่ปุ้บก็เดินไปรับกระเป๋าสัมภาระเลย ดีหน่อยที่งานนี้มีเพื่อนๆไปด้วย เลยไม่เป๋อมาก เดินตามเพื่อนอย่างเดียว เดินออกมาหารถก็เจอแต่คนที่มารอรับลูกค้าเต็มไปหมด น่าปวดหัวชะมัด เดินฝ่าฝูงชนออกมาข้างนอกค่อยหายใจโล่งหน่อย หลังจากนั่นไอ้คุณเพื่อนที่ไปด้วยก็ไปเจรจากับแท็กซี่ได้มาคันนึง ฮีจ่ายไป 500 เหมาไปส่งถึงรีสอร์ทเลย สบายเลยเราจ่ายอย่างเดียว ไม่ต้องลำบากถามหารถเอง(ลำบากใจตอนถามราคาแล้วปฏิเสธเค้าไปนี่แหละ แต่คนที่ไปด้วยมันไม่ลำบากใจ มัน say no ได้แบบแสกหน้าเลย)

อ่าวนาง กระบี่

ตลอด 2 อาทิตย์ของทริปนี้ อยู่อ่าวนางตลอดครับ อันนี้ฐานทัพหลัก สถิตย์กันอยู่นี่ยาวๆ  ไปไหนมาไหนก็สะดวกหมด มีถนนคนเดิน มีหาดสวยๆเพียบ ผับบาร์รายล้อม ร้านอาหารเต็มไปหมด มีทุกสัญชาติ เรียกได้ว่าเหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนจริงๆ ให้ตายสิโรบิ้น

พีช ลากูน่า รีสอร์ท
พีช ลากูน่า รีสอร์ท

รีสอร์ทที่พักอยู่ไม่ไกลจากหาดอ่าวนางมากครับ จะออกข้างหน้าหรือข้างหลังก็ได้ ถ้าออกหน้ารีสอร์ทก็ไกลหน่อย ต้องเดิมตามถนนหน้ารีสอร์ท เดินเลียบไปตามถนนผ่านหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวไปนิดหน่อยก็ถึงหาดล่ะ เดินราวๆครึ่งกิโล แต่ถ้าออกประตูหลังรีสอร์ทก็เหมือนทางลัด แป้บเดียวถึง หอบผ้าขนหนูจากรีสอร์ทไปปูนอนอาบแดดได้เลย ชิลๆดี

Art-on-the-sands
ศิลประบนหาดทราย อ่าวนาง กระบี่

น้ำตกห้วยโต

น้ำตกนี้สูงลิ่วได้ใจมาก น้ำเย็นสุดๆ วิวสวย อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่มาก บึ่งมอไซค์ไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง แต่ที่มันไม่ถึงเพราะผมหลงทาง มาร์คผิดจุด เตลิดไปไกลเลยทีเดียว พอถึงน้ำตกแบตมือถือผมก็หมดพอดี วัยรุ่นเซ็งเลย อดได้ภาพสวยๆเลยงานนี้ คงมีแก้ตัวรอบหลังอีกที ได้แต่เล่นน้ำกันให้สะใจแล้วกลับห้องไปนอนกันตามระเบียบ

วัดถ้ำเสือ

วัดนี้ไปกันตอนเช้าครับ เนื่องจากเพื่อนคนนึงในแก๊งผุดไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมา เพราะวันก่อนที่เช่ามอไซค์ไปน้ำตกห้วยโตกันมาแล้วยังใช้ไม่คุ้ม ฮีบ่นเสียดาย เลยเสนอไอเดียมาว่า เราไปวัดถ้ำเสือกันตอนเช้าดีมั้ย? แล้วค่อยกลับมากินข้าวเช้ากัน และทุกคนดันเห็นดีเห็นงามด้วยซะงั้น

วัดถ้ำเสือ กระบี่
วัดถ้ำเสือ กระบี่

วัดนี้ไฮไลท์อยู่ตรงยอดเขามากกว่าครับ รอบๆไม่ค่อยมีอะไรมาก เหมือนวัดทั่วๆไปที่มีทั้งวัดในแบบจีนและแบบไทยผสมกัน ทางขึ้นยอดเขาเป็นบันไดสำหรับเดินขึ้น รอบๆมีต้นไม้รายล้อม ร่มรื่นตลอดทาง สูงขึ้นไปหน่อยจะเจอฝูงลิงตลอดทางขึ้น ที่นี่เค้าห้ามให้อาหารลิงด้วยนะ คงเพราะกลัวมันทะเลาะกัน ระหว่างทางมีห้องน้ำให้แวะก่อนถึงยอดเขาด้วย สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวจริงๆเลยแฮะ และที่นี่ยังมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมเยอะมาก ได้เจอคนจากหลากหลายที่ก็ไม่แปลกเลยจริงๆ

รูปปั้นบนยอดเขา วัดถ้ำเสือ กระบี่
รูปปั้นบนยอดเขา วัดถ้ำเสือ กระบี่

เหนื่อยสุดของทริปนี้ก็วัดนี้แหละครับ บันไดพันสองร้อยกว่าขั้น แถมชันอีกต่างหาก ตอนกลับลงมาถึงกับขาสั่นเลยทีเดียว แต่วิวด้านบนสุดยอดมาก ประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ กลับถึงห้องแค่นั้นแหละ อาหารเช้าโดนจัดการภายในไม่ถึงห้านาที ฮีฟาดเรียบ หลังจากนั้นก็สลบกันไปทั้งวัน ตื่นมาอีกทีก็หามื้อเย็นกินกันพอดี

อาหารเช้า หลังจากกลับจากเที่ยววัดถ้ำเสือ กระบี่
อาหารเช้า หลังจากกลับจากเที่ยววัดถ้ำเสือ กระบี่

ชายหาดถ้ำพระนาง

ชายหาด ถ้ำพระนาง กระบี่
ชายหาด ถ้ำพระนาง กระบี่

หาดนี้สวยใช้ได้เลยครับ น้ำใส หาดสวย เดินทางสะดวกด้วย เดินไปซื้อตั๋วเรือหางยาวที่อ่าวนางคนละ 200 เป็นตั๋วไปกลับอย่างละใบ ใช้ได้ทุกหาดทั้งจากหาดถ้ำพระนางและหาดไร่เลย์ สะดวกดีเหมือนกัน เป็นทริปแรกที่ได้นั่งเรือหางยาวด้วย ผมตื่นเต้นกับทุกทริปที่นี่จริงๆ หาดนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องของกินนะครับ เค้าขายบนเรือหางยาว มีทุกอย่างจริงๆ เรียกได้ว่ามาติดเกาะตรงนี้ก็ไม่อดตาย(ขอแค่มีตัง ฮ่าๆๆ) สุดทางเดินอีกด้านของหาดจะมีหน้าผาและถ้ำด้วย ในถ้ำมีศาลอะไรซักอย่าง คนท้องถิ่นนับถือกันมาก มีการนำปลักขิกและเครื่องเซ่นมาวางไว้เยอะมาก แล้วก็มีกิจกรรมปีนหน้าผาที่นี่ด้วย แต่ผมไม่ได้ลอง เวลาน้อยไปหน่อย

หาดไร่เลย์

หาดไร่เลย์ กระบี่
หาดไร่เลย์ กระบี่

หาดนี้สวยมากครับ นักท่องเที่ยวเยอะสุดๆ แต่คนไทยไม่ค่อยมีตามเคย ฝรั่งสวยๆหุ่นดีๆเยอะมาก เป็นปลื้มสุดๆ น้ำไม่ลึกมากด้วย ออกไปเล่นน้ำไกลๆได้ นอนอาบแดดก็ฟิน เสียดายที่ได้ไปแค่วันเดียวเอง ก่อนกลับกรุงเทพ แต่หลงรักหาดนี้ไปแล้วหล่ะ หวังว่าจะได้กลับไปอีกซักครั้งถ้ามีเวลาว่างพอ(ไม่ว่างก็จะหาทางไปจนได้แหละ)

หาดไร่เลย์ อ่าวนาง กระบี่
หาดไร่เลย์ อ่าวนาง กระบี่

ดำน้ำที่เกาะพีพี

ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา
ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา

ออกสตาร์ทจากท่าเรือที่หาดนพรัตน์ธาราด้วยเรือหางยาว แล้วไปขึ้นเรือกลางทะเลเพื่อตรงดิ่งไปเกาะพีพีเป็นอะไรที่สุดยอดมากสำหรับทริปนี้ของเลยครับ ถึงจะไม่อยากตื่นเช้าเท่าไหร่ก็เหอะ

กลางทะเล ระหว่างทางไปเกาะพีพี
กลางทะเล ระหว่างทางไปเกาะพีพี

ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ผมหัดส่องใต้ทะเล ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าอะไร แต่เพื่อนผมมันเรียก Snorkeling คนสอนบอกง่ายนิดเดียว ไม่ยากเลย แค่หายใจด้วยปาก แต่ให้ตายเถอะ ผมกินน้ำเค็มไปเยอะมากกว่า กว่าจะทำเป็น แต่พอเป็นแล้วส่องเพลินเลยทีเดียว สุดยอดมาก ไปเกาะพีพีสองวันไม่ได้ถ่ายรูปเกาะเลย มัวแต่ส่องหาฉลามเสือดาว แต่ไม่ยักกะเจอซักตัวแฮะ

และที่พลาดมากอีกอย่างนึงคือ ผมดันลืมเตรียมกล้องที่มันถ่ายใต้น้ำได้ เป็นอะไรที่ยังเจ็บใจไม่หายเลยจริงๆ ฝากไว้ก่อนละกัน คราวหน้าไม่พลาดแน่นอน

รูปปั้นปลายักษ์ หาดอ่าวนาง กระบี
รูปปั้นปลายักษ์ หาดอ่าวนาง กระบี

ปิดท้ายทริปด้วยรูปพระอาทิตย์ตกกับรูปปั้นปลายักษ์ที่หาดอ่าวนางครับ แล้วก็….

Kniffel Game
Kniffel Game

Kniffel เล่นกันตลอดทริปเลยเกมนี้ เป็นเกมที่คนเยอรมันส่วนมากรู้จัก ไว้มีโอกาสจะเอามาสอนเพื่อนๆเล่นกัน

ถ้าใครชอบเที่ยวแบบไม่แพลนล่วงหน้าอะไรมาก แนะนำ Traveloka เว็ปไซต์จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมออนไลน์ครับ ผมแนะนำลองใช้แอปเค้าดูครับ ไม่ต้องแพลนอะไรมากมาย เค้าเน้นความสะดวก รวดเร็ว ราคาก็ไม่แพงมาก สนใจจองที่พักกระบี่ ลองดูที่เว็ป Traveloka

 

คิดถึงเกาะล้าน ทริปแรกกับการเจอทะเลของผม

เกาะล้าน พัทยา ชลบุรี

หลายคนอาจจะชินกับทะเลจนเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่สำหรับมนุษย์ออฟฟีสอย่างผมนั้นไม่ชิน เพราะแต่ละวันทำแต่งาน อยู่แต่กรุงเทพ เมืองหลวงที่แสนวุ่นวายของประเทศเรา เรียกได้ว่ามนุษย์งานเต็มขั้นกันเลยทีเดียว ทริปนี้ไปกันตั้งแต่ปีก่อนๆแล้วครับ ต้นปี 2014 อยู่ๆก็คิดถึงทะเลขึ้นมาเลยอยากเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับทริปแรกที่ได้เจอทะเลของผม มันอาจจะดูธรรมดา แต่มันก็พิเศษสำหรับผมเสมอ

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ทริปนี้เตรียมกันมาอย่างดีครับ เพราะแต่ละคนต้องหาเวลาว่างให้ตรงกัน ทริปเล็กๆสำหรับพักผ่อน แต่เอาจริงๆผมตื่นเต้นสุดแล้วกับทริปนี้ เพราะมันเป็นการเที่ยวครั้งแรกของผม ถึงมันจะเป็นแค่ทริปธรรมดาของคนอื่นๆก็เถอะ ออกสตาร์ทกันที่กรุงเทพเลยครับ ตึกที่ทำงานผม แถวๆรถไฟใต้ดินรัชดาภิเษก (แต่จริงๆน้องสาวที่บริษัทขับรถมารับที่หอ เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก)

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ออกจากกรุงเทพไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงพัทยาแล้วครับ เป้าหมายอยู่ไม่ไกลมาก หาที่จอดรถกันให้วุ่นเลยทีเดียว เพราะสารถีของเราหาทางไปไม่เจอ แต่สุดท้ายก็เจอจนได้ วนอยู่พักนึง พี่ท่านก็พาไปถึงจุดหมาย ที่ฝากรถ ก่อนจะอพยพกันไปที่ท่าเรือเพื่อข้ามฟากไปเกาะล้าน ค่าตั๋วคนละ 30 บาทถ้วน ผมปลื้มกับราคานี้จัง ไม่ขูดรีดกันเกินควร

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ถึงเกาะปุ๊บมีรถสองแถวของรีสอร์ทมาจอดรอรับเลยครับทริปนี้ ต้องขอบใจสาวๆเค้าที่จัดการเรื่องเลือกที่พักได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสุดๆ เป็นทริปที่ไม่ต้องผจญภัยอะไรมาก ยกเว้นตอนขับรถขึ้นเขาเพื่อไปเที่ยวชายหาดแต่ละที่ อันนั้นโหดสุดแล้วสำหรับผม(Scream out loud)

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ทริปนี้ตะลอนเที่ยวหาดไม่เยอะครับ เน้นกิจกรรมภายในห้องพัก ฮ่าๆๆ ไปกันอยู่สองหาดหลักๆ โดยแว๊นมอไซต์กันชิลๆ (อันที่จริงไม่ชิลหรอกครับ เส้นทางโหดมาก เสียวๆกลัวหลุดโค้ง) ถึงปุ๊บผมวิ่งลงทะเลเลย OMG!! เค็มสมคำร่ำลือจริงๆ แถมเหนียวตัวอีกต่างหาก แต่ก็ดีใจที่ได้สัมผัสทะเลกับเค้าซะที เป็นปลื้มชะมัด

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ทะเลที่นี่ค่อนข้างสวยมากครับ สำหรับผมในตอนนั้น แต่ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ น้ำไม่ค่อยใสเท่าที่ควร คงเพราะมีนักท่องเที่ยวเยอะเกินไป เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของคนกรุงเทพและนักท่องเที่ยวที่มาจากพัทยา เพราะอยู่ใกล้มาก เดินทางแค่ไม่ถึงสองชั่วโมง เหมาะสำหรับพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นที่สุด

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ทริปนี้อยู่กันไม่นานครับ วันหยุดหมดไวจริงๆ แต่ก็สนุกสุดๆสำหรับผมเลยหล่ะ ทริปแรกที่ได้เจอทะเลของผม แปลกดี แต่ก็เป็นความประทับใจและความทรงจำที่ดี และก็เป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวของผม ผมเริ่มที่จะออกไปเจอโลกภายนอกมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นเล็กๆจุดนี้ และได้เจอผู้คนอีกมากมาย

เกาะล้าน พัทยา
เกาะล้าน พัทยา

ส่วนใครสนใจจองที่พักพัทยาราคาไม่แพง แนะนำเลือกดูที่พักพัทยาได้ที่ Traveloka เป็นอีกตัวเลือกในการจองที่พักออนไลน์ครับ ไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้ จะโอนเงินผ่านธนาคาร เคาน์เตอร์เซอร์วิสก็ได้ครับ มีหลายช่องทางชำระเงินให้เลือก แนะนำจองผ่านแอปครับ ราคาจะถูกกว่า

ดอยแม่จอกความงามดั่งสรวงสวรรค์บนขุนสถาน

อุทยานแห่งชาติขุนสถานคือสถานที่ตั้งของดอยแม่จอก ในอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ขึ้นชื่อเรื่องของการมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงามราวอยู่บนสวรวงสวรรค์ มีทะเลหมอกที่อลังการและพบมากทีสุดในฤดูฝน ที่นี่จะมีอากาศเย็นไปตลอดทั้งปี เข้ามาท่องเที่ยวไปพร้อมกับความงามของท้องฟ้าและขุนเขา พร้อมสายหมอกที่มาในตอนเช้า และแสงไฟจากหมู่บ้านด้านล่างที่มากับแสงดาวที่ละลานตา ที่สามารถทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการพักผ่อนได้อีกด้วย แสงๆฟที่เกิดจากหมู่บ้านต่าง ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเข้าในตอนกลางคืนนั้น มีความสวยงามดุดาวที่อยู่บนดิน จึงทำให้ที่นี่ได้รับขนานนามว่าสวยดุจอยู่บนสวรรค์นั่นเอง

สถานที่ท่องเที่ยวในดอยแม่จอกนั้นก็มีมากมาย ทั้งศาลเจ้าพ่อเขาครึ่งที่เป็นศาลเจ้าพ่อประตูเมืองของจังหวัดน่าน  และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านที่นี่เป็นอย่างมาก ถ้าใครได้มาก็ต้องมาสักการะก่อนการเดินทางไปต่อ ซึ่งตัวศาลนั้นตั้งอยู่ตั้งอยู่บนริมถนนสายร้องกวาง อำเภอเวียงสา และเมื่อผ่านการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อที่แม่น้ำน่านตอนบนของเขื่อนสิริกิตติ์ ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติที่สร้างบรรยากาศของ 2 ลำน้ำ ที่ล้อมรอบไปด้วยทิวเข้ามากมายที่ทอดตัวเป็นแนวยาวตัดกับพื้นน้ำ สามรถที่จะล่องเรือชมวิวและถ่ายรูปกันได้อย่างสนุกสนาน และยังมีการล่องแพเพื่อชมความงามของธรรมชาติที่ลงตัว ในบางครั้งนักท่องเที่ยวก็อาจจะได้เจอสิ่งมหัศจรรย์อย่างฝูงปลาโลมา ที่มากระโดดเล่นน้ำกันอยู่พอดี และน้ำมีความใสสะอาดเป็นอย่างมาก แล้วมาต่อกันที่น้ำตกตาดหมอก ที่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มี 3 ชั้น และมีความสูงรวมประมาณ 50 เมตรตั้งอยู่บนดอยแม่จอกที่ห่างจาหมู่บ้านมา 3 กิโลเมตร ทั้งยังสามารถเข้าชมน้ำตกผาแดง ที่มีความสูงที่มากกว่าน้ำตกตาดหมอก และชั้นที่มีถึง 4 ชั้น แต่ความสูงเพียง 15 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับถ้ำละโอ่งห่างออกจากหมู่บ้านไปประมาณ 5 กิโลเมตร

ดอยกู่สถานก็เป็นอีกสถานที่ที่ความสูงถึง 1,630 เมตร เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี จากนั้นก็ไปที่ถ้ำละโอ่งที่เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร ภายในถ้ำจะมีลำธารใหญ่ที่มีน้ำใสสะอาดเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งหนงอกหินย้อยที่มาเพิ่มความสวยงามของถ้ำให้มากยิ่งขึ้น และขึ้นไปสู่ดอยแม่จอกที่มีความสูง 1,424 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีเช่นกัน เป็นสถานที่ตากอากาศที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ทั้งยังมีวิวที่เป็นภูเขาขึ้นสลับซับซ้อน สามารถมองลงมาเห็นความงามของทั้งเมืองได้มาเลยทีเดียว