พระตำหนักดอยตุง อดีตที่ประทับมาสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงาม

จากที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่มีรูปแบบที่ผสมผสานระหว่าศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีการแกะสลักไม้พร้อมเชิงชายในรูปแบบที่สวยงาม จากช่างฝีมือดีชาวเหนือ และยังมีดอกไม้หลากหลายชนิดที่ให้ความสวยสดใส โดยเฉพาะในฤดูหนาวก็จะมีหมอกจาง ๆที่บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่ในพระตำหนัก ที่มีเนื้อที่มากกว่า 10 ไร่และมีซุ้มไม้เลื้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด พร้อมรูปปั้นต่อเนื่องที่มีฝีมืออีกหลายรูปปั้น

พระตำหนักดอยตุงยังมีโครงการพัฒนาดอยตุง ที่เป็นการร่วมมือกันจากหน่วยราชการทุกส่วน เพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้วยังมีการฝึกอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเขาบนดอย ซึ่งประกอยไปด้วยชาวเผาผ่าอาข่า อาหู่ ไทยใหญ่ และจีนฮ่อ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ของตนไว้เป็นอย่างดี  สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพระตำหนักนั้น จะมีเป็นหอแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของพระราชตำหนัก สามารถแบ่งห้องต่าง ๆ ได้มากถึง 8 ห้อง ที่ล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างไปตามเรื่องราวในแต่ละห้อง และยังเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับพระตำหนักและโครงการใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี  และเข้าชมสวนแม่ฟ้าหลวงที่เป็นสวนของดอกไม่เมืองหนาวในหุบเขา ที่มีมากถึง 13 ไร่ มีการปลูกดอกไม้ที่สลับหมุนเวียนกันไป โดยดอกไม้นั้นจะออกดอก 3 ฤดูแบบไม่ซ้ำกัน และยังมีประติมากรรมที่มีชื่อว่าความต่อเนื่อง ที่เป็นรูปปั้นเด็กยืนต่อตัวกันอยู่กลางสวน และมีการจัดแต่งสวนหินที่ประดับไปด้วยหินภูเขา ที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะที่กลมเกลี้ยง ทั้งยังมีสวนน้ำที่อุดมไปด้วยไม้น้ำนานาชนิด และสวนปาล์มที่รวบรวมเอาพันธุ์ปาล์มที่มากมายมารวมกันเอาไว้มากถึง 13 ไร่ โดยมีเนื้อที่สวนโดยรวมถึง 25 ไร่

อาคารพระตำหนักดอยตุงที่ถือว่าเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่า ที่สร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ที่เน้นความเรียบง่ายและพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่มากที่สุด ภายหลังการสิ้นพระชนม์ก็ได้มีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม และเข้ามาศึกษาสถาปัตยกรรมของพระตำหนักที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนา และสวิตเซอร์แลนด์ สามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล พร้อมการเข้าสักการะพระธาตุดอยตุงที่เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของคนปีกุน ที่บรรจุพระธาตุส่วนของพระรากขวัญเบื้อซ้ายหรือไหปลาร้าเอาไว้ และสามารถที่จะเข้าสักการะได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย