เขาโมโกจูตำนานขุนเขาแห่งความหนาวเย็นในประเทศไทย

โมโกจูเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่าเหมือนฝนจะตก มาจากการที่ยอดเขามักจะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆอยู่ตลอดเวลา และยังมีอากาศที่หนาวเย็นไปตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูหนาวนั้นก็ยิ่งมีอากาศที่เย็นยะเยือกมากขึ้นไปอีก ถ้ามองขากยอดเขาลงไปก็จะได้เห็นทะเลหมอกที่ห่มปกคลุมผืนป่าไปจรดขอบฟ้าที่กว้างไกลสุดสายตา และยังเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ โดยห่างจากที่ทำการของอุทยานประมาณ 27 กิโลเมตร สามารถเดินเท้าไปและกลับด้วยเวลา 5 วัน แต่ถึงแม้ว่านะยะทางจะไกลและเดินเท้านานขนาดนี้ แต่เหล่านักท่องเที่ยวก็ยังพากันมาเพื่อจุดมุ่งหมายเดียว คือการได้พิชิตยอดเขาโมโกจูที่จะสามารถสร้างสร้างความประทับใจให้กับชีวิตในครั้งหนึ่งเลยทีเดียว

การจะเข้าท่องเที่ยวหรือเดินป่าเพื่อขึ้นเขาโมโกจูนั้น จะต้องมีการมาติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนทุกครั้ง เพื่อที่จะจองช่วงเวลากับทางอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และจะต้องมีการดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางอุทยานอย่างเคร่งครัด และการเตรียมความพร้อมในเรื่องของสัมภาระที่จะเตรียมไป และการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมที่จะเดินทางไปถึงยอดที่ใช้เวลาไปและกลับถึง 5 วัน ทั้งยังต้องมีการแวะพักแรมในป่าตามจุดที่ทางอุทยานได้กำหนดเอาไว้ แต่ระหว่างทางที่เดินนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินชมและศึกษาธรรมชาติของอากาศ พันธุ์พืชและเส้นทางการเดินทางไปได้โดยตลอด ซึ่งก่อนที่จะทำการขึ้นไปสู่ยอดเขาเขาโมโกจู จะต้องมีการอบรมและแนะนำนักท่องเที่ยว เพื่อการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่กำลังจะเดินทาง ให้ได้รู้ในสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในระหว่างการเดินทาง และในช่วงระหว่างการเดินทางก็ยังจะได้พบกับความสวยงามของน้ำตกแม่รีวา ที่จะอยู่ห่างจากแคมป์พักแรมจุดที่ 1 เพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น พอเข้าวันที่ 3 ที่จะต้องเริ่มมีการปีนเขาโมโกจู ก็จะได้พบกับความงามของทิวเขา ม่านหมอกและเมฆสวย ที่ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 20 นาที ก็จะถึงยอดตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้

เมื่อถึงเป้าหมายและแคมป์พักบนยอดเขาแล้ว ก็สามารถที่จะวางสัมภาระและสะพายกล้องเพื่อถ่ายรูปความสวยงามตรงจุดที่ถือว่าเป็นยอดสุดของเขา ที่เรียกว่าหินเรือใบเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวได้กว้างไกล ได้เห็นทะเลหมอกและม่ายเมฆที่ผสมกันอย่างลงตัว เปรียบเสมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ที่สามารถขึ้นไปยืนอยู่เหนือเมฆได้อย่างสบาย ๆ เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการแล้ว นักท่องเที่ยวทุกคนจะรู้สึกว่าหายเหนื่อย และคุ้มค่าต่อการเดินทางมาเป็นอย่างมาก ความเหนื่อยที่สะสมมาก็จะหายไปปลิดทิ้งอย่างแน่นอน