8 ที่เที่ยวพิจิตร เมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์มากมาย

จังหวัดพิจิตร หรือเมืองชาละวัน มีความหมายว่าเมืองงาม เป็นเมืองเก่าแก่ ในสมัยสุโขทัย ถึงแม้จะเป็นแค่จังหวัดเล็กๆ แต่กลับมีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติที่สวยงาม เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อันน่าเรียนรู้ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ที่น่าลองไปสัมผัสกันดูสักครั้ง วันนี้เพจการเดินทางของนกกระจิบของเราก็เลยจะมาชวนเพื่อน ๆ ไปออกทริป เที่ยวเมืองพิจิตรกับ 8 ที่เที่ยวพิจิตร เมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์มากมาย กันนะคะ ส่วนจะมีสถานที่ไหน น่าสนใจบ้างนั้นก็ตาม มาดูกันเลย

บึงสีไฟ

สถานที่พักผ่อนสุดฮิต ของชาวพิจิตร ที่ใครมาถึงพิจิตรก็ต้องแวะ มาที่นี่เป็นที่แรกเลยล่ะค่ะ ที่นี่เป็นบึงขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระชนมายุครบ 80 พรรษา ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ รูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่ หรือพญาชาละวัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองพิจิตรนั่นเอง ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบายเหมาะกับการพักผ่อน เดินเล่นรับลมชิวๆ หรือจะนั่งเรือปั่นชมวิวสวยๆ นั่งพักบนศาลากลางน้ำ ให้อาหารปลา และชมพระอาทิตย์ตก กลางบึงสีไฟ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ๆกันให้เต็มปอด คุ้มค่ากับการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จนคุณหายเหนื่อยเลยล่ะค่ะ และทุกๆปีในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่นี่เค้าก็จะจัดงานลอยกระทงได้อย่างยิ่งใหญ่ ตระการตา ที่คุณต้องลองมาให้ได้สักครั้งค่ะ

วัดสุขุมาราม

มาไหว้พระขอพร พระนอนที่ยาวที่สุด เป็นอันดับสามของประเทศค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และเป็นที่ประดิษฐานพระนอน หรือพระพุทธรูปปางไสยาสน์สีทอง ขนาดใหญ่ มีความยาวถึง 50 เมตร ซึ่งมีความสวยงามอลังการมากๆเลยล่ะค่ะ นอกจากที่นี่ ยังมีตัวอาคารที่ก่อสร้าง แบบศิลปะร่วมสมัย ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ ให้บรรยากาศที่สงบ ร่มรื่นเย็นสบาย มีวิหารหลวงพ่อเขียน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเขียน เกจิอาจารย์ชื่อดังของที่นี่ และยังมีเจดีย์หลวงปู่ปาน ให้เราได้กราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนออกเดินทางไปทริปต่อไปกันค่ะ

วัดห้วยเขน

ไหว้หลวงพ่อเงิน อีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ของผู้คนที่นี่ และกลุ่มนิยมพระเครื่องค่ะ โดยมีความเชื่อ ในความศักดิ์สิทธิ์ของ การปลุกเสกพระ และวัตถุมลคลต่างๆ ของหลวงพ่อเงิน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น ของหายาก มีราคาสูง ที่เหล่าเซียนพระทั้งหลาย ต่างก็ต้องการบูชามา เพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเอง ในเรื่องการแคล้วคลาด และฟันแทงไม่เข้าอีกด้วย วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ สมัยรัชกาลที่ 6 โดยภายในโบสถ์แห่งนี้ มีศิลปะที่กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์ไว้ นั่นก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นภาพวาดแบบโบราณ ที่ไม่มีการตกเพิ่มเติมใดๆ ควรค่าแก่การรักษาไว้มากๆค่ะ โดยจะแสดงเรื่องราวของ พุทธประวัติ และรามเกียรติ์ ที่นอกจากเราได้ไหว้พระ ขอพร และบูชาวัตถุมงคล จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแล้ว ก็ยังได้ชมความสวยงามของโบราณสถาน แห่งนี้กันอีกด้วย

บึงน้ำกลัด

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ กับบึงกว้างกว่า 120 ไร่ กับการได้สัมผัสกับบรรยากาศ ความเป็นธรรมชาติ ที่ร่มรื่นเย็นสบาย พร้อมกับการได้ชมฝูงนกน้ำอพยพ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นกเป็ดน้ำ นกตับแค และนกกระยางขาว โดยเราจะสามารถชมได้ ในช่วงเดือนธันวาคม ของทุกปีค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ ก็คือ การตกปลาในบึง ที่มีอยู่มากมายหลายชนิด ทั้งฝูงปลาจีน และปลาสวายตัวโตๆ ที่กำลังรอเหล่านักตกปลาทั้งหลาย ให้มาเยือนที่นี่กันสักครั้ง

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร

เมืองเก่าของชาละวันในตำนาน ในสมัยพระยาโคตรบอง บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ เป็นแลนมาร์คของที่นี่ ที่ใครมาถึงพิจิตรแล้ว จะต้องแวะมาให้ได้ค่ะ โดยอุทยานแห่งนี้ ถูกโอบล้อมด้วยพรรณไม้หลากชนิด ที่ให้ความร่มรื่น เย็นสบาย เป็นโบราณสถานที่ประกอบไปด้วย พระธาตุเจดีย์ทรงลังกา มีด้านหน้าเป็นที่ตั้งของ วิหารเก้าห้อง และด้านหลังเป็นพระอุโบสถค่ะ และไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือถ้ำชาละวัน ในตำนาน ซึ่งมีความเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้ จะเชื่อมไปยังเมืองบาดาล และอาจจะเป็นที่หลบภัยของคนในสมัยนั้น ด้านหน้าถ้ำ จะมีรูปปั้นชาละวัน และไกรทอง โดยปัจจุบันดิน ได้พังลงมาจนปิดปากถ้ำเอาไว้ จนไม่สามารถเดินเข้าไปในถ้ำได้อีก และมีเกาะศรีมาลา เป็นเกาะเล็กๆ ที่เป็นมูลดิน มีคูล้อมรอบเกาะ ซึ่งน่าจะเคยเป็น ป้อม หรือหอคอยรักษาการณ์ และอย่าลืมมาไหว้ศาลหลักเมือง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบอง กันด้วยนะคะ

วัดเขารูปช้าง

สักการะพระพุทธบาท เพื่อความเป็นสิริมงคล ให้กับตนเอง โดยวัดแห่งนี้ เป็นวัดท่ามกลางขุนเขา ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่5 มีเจดีย์ อยู่บนภูเขาหิน ที่มีลักษณะเหมือนช้าง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเตียง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ของวัดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีรอยพระพุทธบาท ที่ฝังลงไปในหินบนยอดเขา ขนาดยาว 5 ฟุต กว้าง 21 นิ้ว และส่วนของปลายเท้ามีความลึก 9 นิ้ว ซึ่งนอกจากเราจะได้สักการะพระพุทธบาทแล้ว ก็ยังได้ชมวิวสวยๆจากบนยอดเขาอีกด้วย

เหมืองแร่ทองคำเขาพนมพา

เหมืองแร่ทองคำ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม การร่อนแร่หาทองคำแบบชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิธีการถลุงทองคำแบบโบราณ บนเขาพนมพา บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ โดยองค์การบริหารจังหวัดพิจิตรได้จัด ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมกันได้ ทุกวัน ไม่มีวันหยุดเลยล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากเราจะได้ชมการร่อนทองแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่มีอาชีพร่อนทองกันอีกด้วย และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติของเหมืองแร่ อุปกรณ์ของใช้ต่างๆในการทำเหมืองแร่ แถมเรายังได้เกร็ดความรู้ในการทำเหมืองแร่ ได้ลองร่อนทองเอง และยังได้ท่องเที่ยว ได้เรียนรู้เกี่ยวกับทองคำ กันจนเต็มอิ่มไปเลยล่ะค่ะ

ย่านเก่าวังกรด

ส่งท้ายทริปนี้ด้วยการเดินชิวๆ เที่ยวย่านเก่าวังกรดกันค่ะ ที่นี่เป็นชุมชนตลาดเก่า ของหมู่บ้านเล็กๆ ริมแม่น้ำน่าน ที่ยังคงใช้วิถีชีวิตดั้งเดิม ยังคงเสน่ห์แบบวันวาน ไว้ได้อย่างครบครันเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า เป็นตึกเก่าแก่ และบ้านไม้ ที่มีศิลปะผสมผสานระหว่างไทยจีน ได้อย่างลงตัว โดยมีอายุเกือบร้อยปี รวมทั้งสินค้าต่างๆ ก็ยังเป็นสินค้าแบบดั้งเดิม ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น หากใครได้มาที่นี่แล้วล่ะก็ จะต้องหลงเสน่ห์ของความเป็นวันวาน และวิถีชีวิตของผู้คนที่แสนจะเรียบง่าย มีความเป็นกันเอง และอยู่กันอย่างสงบ กับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไป ในโลกอดีตเลยล่ะค่ะ

เห็นไหมคะว่า จังหวัดพิจิตรนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ ที่ใครหลายคนอาจจะเห็น เป็นแค่เมืองทางผ่าน เพื่อขึ้นไปภาคเหนือนี้ กลับเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย และมีเสน่ห์ สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสกับที่นี่กันแล้ว จะต้องได้ทั้งความสุข และความประทับใจ และหวังว่าเพื่อนๆจะต้องหาโอกาสที่จะกลับมาที่นี่กันอีกครั้ง อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ